ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย The Residences at Sindhorn Kempinski ในโครงการสินธร วิลเลจ ความพิถีพิถันของการใช้ชีวิต ในสังคมคุณภาพ บนถนนหลังสวน

LIVING IN THE PARK

สยามสินธรเชื่อว่าที่อยู่อาศัยที่ดี คือการสร้างสังคมคุณภาพ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการสินธร วิลเลจ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้บริการ ซึ่งสิ่งที่ทำให้โครงการสินธร วิลเลจ แตกต่างจนกล่าวได้ว่ากล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในยุคแรกๆ ของการสร้างโครงการ Mixed-use ในไทย คือการมีพื้นที่เกินกว่าครึ่งหนึ่งของโครงการ เป็น Open Space และสร้างพื้นที่สีเขียวส่วนกลางมากกว่า 7 ไร่

อย่างที่รู้กันว่า หลังสวน เป็นทำเลที่มีราคาที่ดินสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หากมองในมุมเจ้าของที่ดินหรือผู้พัฒนาโครงการ ย่อมหวังนำที่ดินที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้มาพัฒนาให้เกิด กำไรสูงสุด แต่สำหรับสยามสินธรแล้ว การสร้างพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ถือเป็นหัวใจสำคัญ การสร้างป่าย่อมๆ ใจกลางเมืองเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้บริการได้ใช้ชีวิตท่ามกลางความสะดวกสบาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และได้สัมผัสความรู้สึกเงียบสงบ ตามคอนเซ็ปต์ Living in the Park

ความพิเศษของพื้นที่สีเขียวส่วนกลางไม่ใช่แค่ต้นไม้ หรือสนามหญ้าเท่านั้น แต่เป็นการออกแบบอิงหลัก Park Design for Community Health & Wellbeing ที่มี Walking Trail ความยาวกว่า 400 เมตร มีมุมสันทนาการที่สอดคล้องกับการสร้าง Social Connections, Mental Restoration และเป็น Universal Design ที่มีนักออกแบบภูมิทัศน์ที่มีความเชี่ยวชาญ มาช่วยออกแบบและคัดเลือกพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดและขนาด เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ สยามสินธรยังมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันให้กลุ่มอาคารภายใต้โครงการสินธร วิลเลจ เป็นอาคารเขียวอย่างเต็มรูปแบบ โครงการสินธร วิลเลจ จึงเป็นโครงการ Mixed-use ที่ได้รับรองอาคารมาตรฐาน LEED ทุกอาคาร ถือเป็น LEED Campus ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การสร้างอาคารตามมาตรฐาน LEED ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยอนุรักษ์พลังงาน เช่น กระจกหนา 3 ชั้นที่กันความร้อน รังสียูวี และเสียงรบกวน ไปจนถึงระบบหมุนเวียนอากาศที่เติมอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในอาคาร ทำให้ทั้งประหยัดพลังงานและเหมาะกับการอยู่อาศัย รวมถึงการมีพื้นที่สีเขียวกว่าครึ่งหนึ่งของโครงการ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ได้ถึง 5,000 ตันต่อปี หรือเทียบกับการต้องใช้สวนลุมพินีถึง 8 สวนในการกำจัดก๊าซเรือนกระจกในปริมาณนี้ ทั้งหมดนี้ถือเป็นต้นแบบอาคารเขียวที่สามารถประหยัดพลังงาน ใช้น้ำอย่างคุ้มค่า และคำนึงถึงคุณภาพอากาศทั้งภายนอกและภายในอาคารอย่างเป็นรูปธรรมและมีมาตรฐานรองรับ

ร่วมมือกับแบรนด์ Kempinski สู่การเป็น Wellness Sanctuary ใจกลางเมือง

สยามสินธรร่วมมือกับแบรนด์ Kempinski แบรนด์โรงแรมหรูระดับโลกจากยุโรป ในการพัฒนาโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ควบคู่กับเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ Branded Residence ให้เป็น Luxury Wellness Destination ที่ผสานบริการเหนือระดับของโรงแรมเข้ากับความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้บริการด้านสุขภาพจาก Sindhorn Wellness by Resense ของโรงแรมฯ บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร ที่ครอบคลุมทั้งฟิตเนส สตูดิโอออกกำลังกายเฉพาะทาง สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบอินฟินิตี้ขนาด 25 เมตร พร้อมศูนย์สุขภาพครบวงจร ทั้งในส่วนของการบำบัดด้วยความร้อน (Thermal zone) และการบำบัดด้วยน้ำ (Hydrotherapy) อีกทั้งยังสามารถนัดหมายผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับบริการสปาและทรีตเม้นต์ได้อย่างเป็นส่วนตัวถึงในที่พัก โดย Sindhorn Wellness by Resense ได้รับการยอมรับว่าเป็นสปาลักซ์ชัวรีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ โลก โดยได้รับรางวัลสปาเปิดใหม่ยอดเยี่ยมประจำปี 2563 จาก Destination Deluxe Awards

ด้วยแนวคิดทรีตเม้นต์ เน้นส่งเสริมสุขภาวะ ผนวกกับบริการที่มีประสบการณ์ จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับการดูแลฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมอิงหลักเวชศาสตร์เชิงป้องกันอย่างสะดวกสบาย ซึ่งสะท้อนแนวคิดการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะในทุกมิติ ทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์

นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากโรงแรมและร้านอาหารในเครือสยาม สินธร ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ, โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ, โรงแรม สินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ, วีนแยทท์ คอลเลคชั่น, ร้านอาหารเสน่ห์จันทน์ มิชชิลสตาร์ 1 ดาว 8 ปีซ้อน รวมถึงร้านอาหารและบริการในโครงการ Velaa Langsuan (เวลา หลังสวน) Neighbour-hood Mall ที่มีครบทุกอย่างทั้งร้านอาหาร, คาเฟ่, บาร์, ร้านทำผม/เล็บ, คลินิกเสริมความงาม และซูเปอร์มาร์เก็ต

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า Quiet Luxury ที่มีความพิถีพิถันในการเลือกที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิต ชื่นชอบความสะดวกสบายของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง แต่ยังคงต้องการความสงบเป็นส่วนตัว โดยเกือบทั้งหมดของผู้พักอาศัยที่นี่เกิดจากการบอกต่อ (Word of Mouth) ที่มาจากความประทับใจ ในการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตภายในโครงการนี้

ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติ

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ พิถีพิถันในการออกแบบห้องพักเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ซึ่งสยามสินธรคิดมาให้ครบทุกมิติ ห้องพักได้รับออกแบบให้รองรับการใช้ชีวิตของคนหลากหลายเจเนอเรชั่น พื้นที่กว้างขวาง แต่เป็นสัดส่วน การจัด Layout ที่แตกต่างกันในแต่ละยูนิต เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของผู้อยู่อาศัย รวมถึงการออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลม แสงแดด เพื่อให้มีอุณหภูมิและระดับความชื้นที่พอเหมาะ การเลือกใช้กระจกหนา 3 ชั้น เพื่อลดความร้อนและเสียงรบกวน พร้อมวัสดุตกแต่งที่เรียบหรูและประณีตในทุกรายละเอียด ตัวอาคารสูง 33 ชั้น บนพื้นที่ราว 4 ไร่ จำนวนห้องพัก 231 ยูนิต พร้อมที่จอดรถมากถึง 214% ของจำนวนยูนิต โครงสร้างอาคารออกแบบให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานนับ 100 ปี มี ความแข็งแรง ปลอดภัยแม้ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเหตุไม่คาดฝันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมใหญ่ พายุ หรือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ออกแบบและก่อสร้างโดยผู้รับเหมาระดับโลกอย่าง Thai Obayashi บริษัทก่อสร้างชั้นนำจากญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศในเรื่องคุณภาพที่ปลอดภัยมั่นคงแข็งแรง สยามสินธรเป็นทั้งผู้พัฒนาและผู้บริหารโครงการ (Build & Operate) ดูแลทุกขั้นตอน อย่างมืออาชีพด้วยมาตรฐานสูงสุดอย่างต่อเนื่องครบวงจร ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการบริหารอาคาร ด้วยทีมงานของสยามสินธรที่มีความเชี่ยวชาญที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสบายใจ และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพตลอดการอยู่อาศัย

+1

คุณภาพชีวิตที่ไม่สามารถประเมินค่าได้

ด้วยที่ตั้งของเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ อยู่ในทำเล หลังสวน พื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนพื้นที่อยู่อาศัยใจกลางกรุงเทพฯ อื่นๆ เพราะถึงแม้จะอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ แต่กลับมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว แถมอยู่ใกล้กับสวนลุมพินี ที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของคนกรุงเทพฯ ทำให้ที่นี่เป็นย่านแห่งการอยู่อาศัย หรือ Residential Area อย่างแท้จริง

ประกอบกับแนวทางในการพัฒนาโครงการสินธร วิลเลจ ของสยามสินธร ที่ต้องการยกระดับเมืองมากกว่าแค่พัฒนาโครงการ มุ่งพัฒนาชุมชนและพื้นที่โดยรอบให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ทำให้พื้นที่หลังสวนเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว (Property Value) บวกกับปัจจุบันที่ดินย่านหลังสวนแทบไม่มีเหลือให้พัฒนาโครงการใหม่แล้ว จึงทำให้ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ กลายเป็น Rare item ที่สะท้อนถึง คุณภาพชีวิต ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้